ธงชาติสหรัฐอเมริกา
ชื่อธง | The Stars and Stripes" (ธงดาวและริ้ว), Old Glory |
---|---|
การใช้ | 111111 |
สัดส่วนธง | 10:19 |
ประกาศใช้ | 14 มิถุนายน ค.ศ. 1777 (13 ดาว) |
ลักษณะ | ธงแถบสีแดง 7 ริ้ว สลับกับสีขาว 6 ริ้ว ที่มุมบนด้านคันธงมีรูปดาวห้าแฉกสีขาวจำนวน 49 ดวง ซึ่งอยู่ภายในกรอบสี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน |
ธงชาติสหรัฐอเมริกา มีลักษณะเป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 10 ส่วน ยาว 19 ส่วน ภายในเป็นแถบสีแดงสลับขาวรวมกัน 13 ริ้ว เป็นริ้วสีแดง 7 ริ้ว สีขาว 6 ริ้ว ที่มุมบนด้านคันธงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าพื้นสีน้ำเงิน ภายในมีรูปดาวห้าแฉกสีขาวจำนวน 50 ดวง เรียงกันตามแนวตั้งเป็นแถวดาว 6 ดวงสลับกับแถวดาว 5 ดวง รวมจำนวนทั้งหมด 9 แถว ธงนี้มีชื่อเรียกอื่นๆ อีก 3 ชื่อ คือ "The Stars and Stripes" (ธงดาวและริ้ว) "Old Glory", และ "The Star-Spangled Banner" ซึ่งชื่อหลังสุดนี้ ยังเป็นชื่อของเพลงชาติสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
จำนวนของดาว 50 ดวงในพื้นสีน้ำเงิน หมายถึงรัฐต่างๆ ของสหรัฐอเมริกาทั้ง 50 รัฐ โดยจำนวนดาวจะเปลี่ยนแปลงทุกครั้งเมื่อมีการเพิ่มจำนวนรัฐในความปกครอง ริ้วสีแดงสลับขาวทั้ง 13 ริ้ว หมายถึงอาณานิคม 13 แห่งของสหราชอาณาจักรในอเมริกา ซึ่งได้ร่วมกันประกาศเอกราชจากสหราชอาณาจักร และสถาปนาประเทศสหรัฐอเมริกาขึ้น เมื่อ ค.ศ. 1776
จากการให้นิยามในธงชาติไว้ข้างต้น ส่วนที่เป็นพื้นสีน้ำเงินมีรูปดาวจึงมีชื่อเรียกเฉพาะว่า "ยูเนี่ยน" (union) อันอาจหมายถึง ความเป็นเอกภาพของรัฐต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา ส่วนดังกล่าวนี้ได้มีการใช้เป็นธงฉานของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา โดยใช้ชื่อว่า "ธงยูเนี่ยนแจ็ค" (อย่างไรก็ตาม ธงนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับธงยูเนี่ยนแจ็คของสหราชอาณาจักรแต่อย่างใด) โดยใช้ในเรือรบของกองทัพเรือสหรัฐอเมริการะหว่าง ค.ศ. 1777 - ค.ศ. 2002 ปัจจุบันธงดังกล่าวไม่ได้ใช้ในเรือรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ แล้ว แต่ยังคงใช้อยู่ในเรือของรัฐบาลสหรัฐฯ สังกัดหน่วยป้องกันชายฝั่ง (United States Coast Guard) กองบัญชาการการลำเลียงทางทหารของกองทัพเรือสหรัฐ (Military Sealift Command) และสำนักงานบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and Atmospheric Administration)
การออกแบบ
สีธง
Name | Absolute | Relative | ||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
CIELAB D65 | Munsell | CIELAB D50 | sRGB | GRACoL 2006 | ||||||||||||||
L* | a* | b* | H | V/C | L* | a* | b* | R | G | B | 8-bit hex | C | M | Y | K | |||
สีขาว | 88.7 | −0.2 | 5.4 | 2.5Y | 8.8/0.7 | 100.0 | 0.0 | 0.0 | 1.000 | 1.000 | 1.000 | #FFFFFF | .000 | .000 | .000 | .000 | ||
Old Glory Red | 33.9 | 51.2 | 24.7 | 5.5R | 3.3/11.1 | 39.9 | 57.3 | 28.7 | .698 | .132 | .203 | #B22234 | .196 | 1.000 | .757 | .118 | ||
Old Glory Blue | 23.2 | 13.1 | −26.4 | 8.2PB | 2.3/6.1 | 26.9 | 11.5 | −30.3 | .234 | .233 | .430 | #3C3B6E | .886 | .851 | .243 | .122 |
Source | PMS | CIELAB D50 | sRGB | GRACoL 2006 | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
L* | a* | b* | R | G | B | 8-bit hex | C | M | Y | K | |||
Safe | 100.0 | 0.0 | 0.0 | 1.000 | 1.000 | 1.000 | #FFFFFF | .000 | .000 | .000 | .000 | ||
สถานทูตสหรัฐ, กรุงลอนดอน | 193 C | 42.1 | 64.4 | 26.7 | .756 | .076 | .238 | #C1133D | .165 | 1.000 | .678 | .063 | |
281 C | 15.4 | 7.0 | −41.8 | .000 | .149 | .388 | #002663 | 1.000 | .906 | .388 | .231 | ||
สถานทูตสหรัฐ., กรุงสต็อกโฮม | 186 C | 44.1 | 67.8 | 37.9 | .800 | .048 | .185 | #CC0C2F | .122 | 1.000 | .796 | .035 | |
288 C | 18.0 | 7.6 | −50.3 | .000 | .172 | .466 | #002C77 | 1.000 | .863 | .357 | .141 | ||
CA Mil. Dept. | 200 C | 41.1 | 64.2 | 30.8 | .745 | .051 | .203 | #BE0D34 | .169 | 1.000 | .749 | .074 |
สี | Cable color | แพนโทน | สีเว็บ | RGB |
---|---|---|---|---|
แดงเข้ม | 70180 | 193 C | #BF0A30 | (191,10,48) |
ขาว | 70001 | Safe | #FFFFFF | (255,255,255) |
น้ำเงิน (เนวีบูล) | 70075 | 281 C | #002868 | (0,40,104) |
การตกแต่ง
โดยธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว ธงชาติสหรัฐอเมริกาอาจมีการตกแต่งด้วยชายครุยสีทองตามขอบธงได้ตลอด ตราบเท่าที่ไมการประดับตกแต่งใดๆ ลงบนพื้นธงโดยตรง การใช้หรือแสดงธงในพิธีการ เช่น ในการเดินขบวนพาเหรด หรือภายในอาคาร โดยมากมักใช้ธงซึ่งแต่งด้วยชายครุยดังกล่าวเพื่อให้ธงมีความสวยงามมากขึ้น บันทึกที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ปรากฏขึ้นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1835 และกองทัพบกสหรัฐอเมริกาได้เริ่มใช้ธงลักษณะดังกล่าวอย่างเป็นทางการเมื่อ ค.ศ. 1895 ทั้งนี้ ไม่มีกฎหมายหรือข้อบังคับใดๆ ที่ระบุถึงการตกแต่งธงด้วยชายครุยโดยตรง แต่ใน ค.ศ. 1925 ได้มีความเห็นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (United States Attorney General) กล่าวถึงการใช้ชายครุย (และจำนวนดาวในธง) ว่า "...ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้บัญการทหารบกและผู้บัญชาการทหารเรือ..." ("...is at the discretion of the Commander in Chief of the Army and Navy...") อย่างไรก็ตาม สถาบันวิชาออกแบบตราสัญลักษณ์ของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา (Army Institute of Heraldry) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องแบบธงและกำหนดหรือเปลี่ยนแปลงข้อบังคับเรื่องดังกล่าว ระบุว่าการตกแต่งธงด้วยชายครุยดังกล่าวไม่มีนัยความหมายพิเศษอื่นๆ แต่อย่างใด ซึ่งศาลของรัฐต่างๆ ส่วนมากก็สนับสนุนในข้อสรุปนี้
ประวัติ
ธงชาติสหรัฐอเมริกามีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธงมาแล้ว 26 ครั้ง นับตั้งแต่มีธงแบบแรกสุดซึ่งได้รับการยอมรับจากรัฐก่อตั้งประเทศทั้ง 13 รัฐ ธงชาติสหรัฐฯ แบบ 48 ดาว ซึ่งใช้มาถึง 47 ปี จนถึงวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2502 (วันแรกที่รัฐอลาสกาได้เข้าร่วมเป็นรัฐที่ 49 ของประเทศ) นับเป็นสถิติของการใช้ธงชาติสหรัฐที่ยาวนานที่สุด สถิตดังกล่าวถูกทำลายลงด้วยธงชาติสหรัฐในปัจจุบันที่มีดาว 50 ดาว เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 อันเป็นวันครบรอบ 47 ปีของธงดังกล่าวนั้น
ธงชาติธงแรก
เมื่อมีการลงนามในคำประกาศเอกราชของสหรัฐอเมริกาในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1776 ประเทศสหรัฐอเมริกายังไม่มีธงชาติอย่างเป็นทางการของตนเองใช้ ในประวัติศาสตร์นั้นมักจะอ้างถึงธงที่มีชื่อว่า "แกรนด์ยูเนียนแฟลก" ว่าเป็น "ธงชาติธงแรก" ของสหรัฐอเมริกา แม้ในความจริงแล้วธงนี้จะไม่เคยมีสถานะเป็นธงชาติอย่างเป็นทางการเลย ธงแกรนด์ยูเนียนแฟลกนั้นเป็นธงที่มีการใช้เป็นสัญลักษณ์ในช่วงสงครามการปฏิวัติอเมริกา โดยนายพลจอร์จ วอชิงตัน และลักษณะของธงดังกล่าวนั้นได้กลายเป็นต้นแบบของธงชาติสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการในช่วงต่อมา ที่มาของแบบธงนั้นไม่สามารถสืบได้แน่ชัด แต่ลักษณะของธงนี้คล้ายคลึงกับธงของบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษในยุคเดียวกันมาก เซอร์ ชาร์ลส ฟอว์เซตต์ ได้แสดงทัศนะไว้ในไป ค.ศ. 1937 ว่า ธงแกรนด์ยูเนียนแฟลกได้รับแรงบันดาลใจมาจากแบบธงบริษัทอินเดียตะวันออกอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ธงของบริษัทดังกล่าวอาจมีแถบริ้วธงได้ตั้งแต่ 9 - 13 ริ้ว และธงนี้ห้ามใช้ในพื้นที่นอกมหาสมุทรอินเดีย การทำธงทั้งสองผืนนั้นสามารถทำได้โดยง่ายโดยการเพิ่มแถบริ้วสีขาวลงบนธงเรดเอนไซน์ (Red Ensign) ซึ่งเป็นธงของสหราชอาณาจักรที่ปรากฏอยู่ทั่วไปในอาณานิคมต่างๆ
มีอีกทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่า แถบริ้วสีขาวแดงของธงอาจมาจากตราอาร์มประจำตระกูลวอชิงตันของ จอร์จ วอชิงตัน ซึ่งเป็นรูปโล่พื้นสีขาว มีแถบสีแดงคาดกลางตราตามแนวนอน 2 แถบ ที่ส่วนบนสุดของตราเป็นรูปดาวห้าแฉกสีแดง 3 ดวง อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าวยังไม่มีการพิสูจน์และทฤษฎีนี้ก็ไม่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป เพราะจอร์จ วอชิงตันไม่ได้มีส่วนร่วมในคณะกรรมาธิการเกี่ยวกับการออกแบบธงในปี ค.ศ. 1777 และในแง่วิชาการออกแบบตราสัญลักษณ์ (heraldry) ตราและธงดังกล่าวนั้นมีความเกี่ยวข้องซึ่งกันและกันน้อยมาก ยิ่งกว่านั้น ลำดับพัฒนาการของธงชาติสหรัฐอเมริกายังถูกทำให้เข้าใจผิดว่ามาจากตรานั้นด้วย เป็นไปได้มากกว่าว่าธงของสหรัฐฯ นั้นอาจมีที่มาจากธงของสมาคมลับ "ซันส์ออฟลิเบอร์ตี" (Sons of Liberty) ซึ่งเป็นธงริ้วขาวแดง 13 ริ้วเรียงสลับกันในแนวตั้ง
มติเรื่องธง ค.ศ. 1777
ในวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1777 คณะกรรมาธิการทหารเรือแห่งสภาคองเกรสภาคพื้นทวีปครั้งที่ 2 (Marine Committee of the Second Continental Congress) ได้ผ่านมติเรื่องธง (Flag Resolution of 1777) ซึ่งระบุว่า "อนุมัติให้ธงแห่งสหรัฐอเมริกามีริ้ว 13 ริ้วสีแดงสลับขาว และที่มุมธงบนด้านคันธง (ในประกาศนี้ภาษาอังกฤษใช้คำว่า "union") ใช้รูปดาวสีขาวบนพื้นน้ำเงิน เป็นเครื่องหมายแห่งการรวมกลุ่ม (ก่อตั้งประเทศ) ขึ้นใหม่ ("Resolved, That the flag of the United States be thirteen stripes, alternate red and white; that the union be thirteen stars, white in a blue field, representing a new Constellation.") สหรัฐอเมริกาจึงได้ถือเอาวันที่ 14 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันธงชาตินับแต่นั้นมา
มติเรื่องธงในปี ค.ศ. 1777 นั้น อาจหมายถึงการบัญญัติธงนาวี (naval ensign) มากกว่าที่จะเป็นการบัญญัติธงชาติ (national flag) ขึ้นใช้ โดยปรากฏหลักฐานในมติอื่นๆ ของคณะกรรมาธิการทหารเรือข้างต้น เช่น ริชาร์ด ปีเตอร์ จูเนียร์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการสงคราม (Secretary of the Board of War) ได้แสดงความคิดเห็นไว้ในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1779 ว่า "ยังไม่มีการตัดสินใจว่าธงอย่างใดจะเป็นธงประจำชาติของสหรัฐอเมริกา" ("it is not yet settled what is the Standard of the United States.")
รัฐบัญญัติเรื่องธงในยุคต่อมา
ในปี ค.ศ. 1795 จำนวนดาวและริ้วธงเพิ่มขึ้นจาก 13 ดวง/ริ้ว เพิ่มขึ้นเป็น 15 ดวง/ริ้ว เนื่องจากมีการรับเอารัฐเวอร์มอนต์และรัฐเคนทักกีเข้าเป็นรัฐสมาชิกของสหรัฐอเมริกา ทำให้ธงชาติสหรัฐอเมริกาไม่มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะอยู่ชุ่วระยะหนึ่งเมื่อมีการรับเอารัฐอื่นๆ เข้าเป็นรัฐสมาชิกในสหภาพ ซึ่งเป็นไปได้ว่าการเพิ่มริ้วและดาวในธงตามลักษณะดังกล่าวอาจทำให้ลักษณะของธงดูสับสนไม่งดงามนัก ธง 15 ดาว 15 ริ้ว แบบนี้เอง ที่ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ แต่งบทกวีชื่อ "เดอะสตาร์สแปงเกิลด์แบนเนอร์" ("The Star-Spangled Banner") ขึ้น และบทกวีนี้ก็คือบทร้องของเพลงชาติสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน
วันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1818 สภาคองเกรสได้อนุมัติแบบแผนของธงชาติตามคำแนะนำของนาวาเอก แซมมวล ซี เรด (Samuel C. Reid) แห่งกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาในการเพิ่มจำนวนดาวในธงชาติตามจำนวนรัฐสมาชิกที่เพิ่มขึ้น (ในเวลานั้นสหรัฐอเมริกามีรัฐสมาชิกเพิ่มขึ้นจาก 15 รัฐ เป็น 20 รัฐ) แต่จำนวนริ้วธงนั้นให้ลดลงมาเหลือเพียง 13 ริ้ว เพื่อเป็นเกียรติแก่อาณานิคมทั้ง 13 แห่ง ซึ่งร่วมกันก่อตั้งประเทศ ทั้งนี้ ในรัฐบัญญติดังกล่าวยังระบุด้วยว่า แบบธงชาติที่คิดขึ้นใหม่นั้นจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในวันชาติ (วันที่ 4 กรกฎาคม) ซึ่งเป็นวันชาติวันแรกหลังการรับรองรัฐสมาชิกใหม่ที่เข้าร่วมกับประเทศสหรัฐอเมริกา ข้อความดังกล่าวถือเป็นข้อปฏิบัติสำคัญในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบธงชาติสหรัฐอเมริกาทุกครั้งจนถึงธงแบบที่ใช้ในปัจจุบันซึ่งมีดาวในธงทั้งหมด 50 ดวง โดยธงนี้เริ่มใช้เมื่อ ค.ศ. 1960 หลังมีการรับรัฐฮาวายเข้าเป็นรัฐสมาชิกลำดับที่ 50 ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1959 และนับตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 เป็นต้นมา ธงนี้ก็ได้กลายเป็นธงชาติสหรัฐอเมริกาที่มีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น